สวัสดีครับวันนี้เราจะมา รีวิวหนัง สานต่อความเข้มข้นของเนื้อเรื่องหนัง HD เรื่อง The Crown Season 5 เป็นหนัง HD อีกเรื่องนึงเลยนะครับที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์รับรองว่าเราจะรู้จักหนัง HD เรื่องนี้มากขึ้นครับเล่าเรื่องต่อจากภาคที่แล้ว ไดอาน่าที่เข้ามาในราชวงศ์ อาการเจ็บป่วยองพระราชินีเอลิซาเบ็ธที่สอง ความสัมพันธ์ที่เริ่มระหองระแหงของเจ้าชายชาร์ลที่สาม และเจ้าหญิงไดอาน่ากลับมาอีกครั้งกับชีวิตที่สุดแสนจะวุ่นวายของราชวงศ์อังกฤษในปัจจุบัน ที่หนัง HDเรื่องนี้เป็นเหมือนสารคดีในรูปแบบหนังผ่านจินตนาการของผู้กำกับและคนเขียนบทที่มีเรื่องจริงบ้าง เรื่องแต่งบ้าง แล้วแต่การตีความของคนอังกฤษ จากเลนมองของประชาชนของชาวอังกฤษ ที่ตีแผ่เรื่องราวให้ชาวโลกรู้จักราชวงศ์และใกล้ชิดกับราชวงศ์ให้มากขึ้นผ่านหนัง HDเรื่องนี้จิกกัด แสบทรวง รู้สึกได้ถึงความหรูหรา ความอนุรักษ์นิยม ของราชวงศ์
รวมไปถึงการทำงานในทำเนียบ และการกลับมาของเจ้าฟ้า พระขนิษฐาของพระราชินี ที่กลับมาจากสก็อตแลนด์ บอกเลยว่าพากย์ไทยสนุกมากแถมยังเข้าใจเนื้อเรื่องได้มากขึ้น และหลังจากดูจบผู้เขียนพบว่านี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะได้มองเห็นนักแสดงและเรื่องราวของควีนเอลิซาเบ็ธที่สองจากประเทศอังกฤษ ซึ่งในซีซั่นนี้ได้รวมเหตุการณ์สำคัญหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในราชวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพเป็นคนดี เป็นสามีที่ดี เป็นพ่อที่ดีต่อหน้าสื่อของเจ้าชายชาร์ลในวัยกลางคน แต่ความจริงแล้วเขาไม่ค่อยสนใจโอรสทั้งสามของตัวเองมากนัก การที่เจ้าหญิงไดอาน่าติดช้อปปิ้งอย่างหนัก ในขณะที่เจ้าชายชาร์ลก็ชอบการล่องเรือเพื่อหลีกหนีจากสายตาของสื่อและการจ้องมองของประชาชน
แต่เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นในซีซั่นนี้ ก็คงจะไม่พ้นจากการหย่าระหว่างเจ้าชายชาร์ลและเจ้าหญิงไดอาน่าเพื่อจัดพระราชพิธีสมรสครั้งใหม่นี้แหละและไหนจะกระทรวงการคลังและนายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่ที่ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้ได้ฉายาว่า Queen Slayer ได้ออกกฎหมายใหม่บีบบังคับให้ราชวงศ์ต้องจ่ายภาษีด้วยตัวพระองค์เองอีก และการยอมรับแนวคิดใหม่ที่จะเปิดราชวังที่มีมาอย่างยาวนานของประเทศอังกฤษให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือพิพิธภัณฑ์ที่ใครจะเข้ามาเยี่ยมชมก็ได้อีก
รีวิวหนัง เรื่อง The Crown Season 5 หลังจากดูจบ
ผู้เขียนพบว่าการดำเนินเนื้อเรื่องค่อนข้างสมเหตุสมผลเป็นอย่างมากและแม้จะเปลี่ยนทีมนักแสดงใหม่ทั้งหมดแต่นักแสดงกลับถ่ายทอดความขลัง ความมีอำนาจ ของคาแรทเตอร์และตัวละครในราชวงศ์อังกฤษออกมาได้อย่างน่าขนลุกและน่าชื่นชมเป็นอย่างมาก มีหลายครั้งที่ผู้เขียนสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในหนัง HDคือเรื่องจริงทั้งหมดหรือเปล่า เพราะบทและการแสดงที่ทรงพลังมากๆของนักแสดง แต่หากเทียบกับเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในราชวงศ์จริงๆนั้น จะพบส่วนที่แตกต่างกันเล็กๆน้อยๆ ผู้เขียนจึงอนุมานว่าบางส่วนที่เกิดขึ้นในเนื้อเรื่องคงเป็นจินตนาการของคนเขียนบทและทีมงานด้วยส่วนหนึ่ง ยังไงก็ตาม The Crown ในซีซั่นนี้ ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนได้เข้าไปใกล้ชิดและสัมผัสตัวตนจริงๆของครอบครัวจากราชวงศ์อังกฤษได้มากขึ้น แม้ว่าพวกเราจะไม่เคยใกล้ชิดจริงๆเลยก็ตาม หนัง HDยังคงรักษาความจิกกัดและคงความตลกร้ายของครอบครัวราชวงศ์ของควีนเอลิซาเบ็ธที่สองได้ดีเดอะคราวน์ซีซันล่าสุดซึ่งมีอยู่ 10 ตอนด้วยกัน ได้ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อนตั้งแต่ยังไม่เริ่มออกอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความสมจริงของการถ่ายทอดชีวิตบรรดาพระราชวงศ์ออกมาเป็นละคร
ทำให้ทางเน็ตฟลิกซ์ต้องออกมาชี้แจงว่า เดอะคราวน์เป็นแค่เรื่องจริงที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนัง HDแนวดรามา โดยมีการแต่งเสริมเนื้อหาบางส่วนบุคคลสำคัญอย่างเซอร์ จอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ และเดม จูดี เดนช์ นักแสดงอาวุโส ต่างออกมาตั้งคำถามถึงความถูกต้องแม่นยำของเนื้อเรื่อง จนท้ายที่สุดเน็ตฟลิกซ์ต้องเติมข้อความ “ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ในชีวิตจริง” ลงไปในโฆษณาโปรโมตซีซันใหม่ด้วยบรรณาธิการข่าวศิลปวัฒนธรรมของบีบีซี ซึ่งได้ชมซีซัน 5 ของเดอะคราวน์แล้วทั้ง 10 ตอน แสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นถกเถียงข้างต้นและสิ่งที่น่าสนใจในซีซั่นล่าสุดไว้ดังนี้ยิ่งเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงยุคที่ใกล้กับช่วงเวลาปัจจุบันมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากจะแยกแยะว่าเรื่องใดเป็นข้อเท็จจริงและเรื่องใดเป็นการเสริมแต่งของผู้เขียนบทหนัง HDกันแน่เดอะคราวน์ซีซัน 5 จับเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคทศวรรษ 1990
ขณะที่ควีนหรือสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สอง ยังคงมีพระชนมพรรษาอยู่ในวัยราว 60 พรรษาตอนกลาง ซึ่งเป็นช่วงที่ชีวิตสมรสของเหล่าพระราชโอรสและพระราชธิดาล้มเหลวไม่เป็นท่า นอกจากนี้ยังมีการนำเสนอเป็นนัยอ้อม ๆ ถึงเรื่องที่เจ้าชายฟิลิป พระราชสวามี อาจลอบมีสัมพันธ์ลับกับเลดีรอมซีย์ผู้อ่อนวัยกว่าถึง 32 ปีด้วย ในหนัง HDหนัง HDเรื่องนี้ เจ้าชายฟิลิป ดยุคแห่งเอดินบะระ ปฏิเสธว่าไม่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวที่ไม่เหมาะสมดังกล่าว แต่ก็ได้ยอมรับกับควีนในฉากหนึ่งว่า ความรักความผูกพันในชีวิตสมรสนั้น “จืดจาง” ลงไปอย่างมาก แต่การที่เราไม่อาจทราบถึงข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับชีวิตส่วนพระองค์ได้ แถมหนัง HDก็ดูสมจริงและน่าเชื่อถืออย่างยิ่งสำหรับผู้ชมส่วนใหญ่ ทำให้เนื้อหาของละครเข้าเติมเต็มและแทนที่ช่องว่างทางข้อมูลข่าวสาร จนอาจทำให้เรื่องแต่งถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเรื่องจริงไปได้ในที่สุด เซอร์ จอห์น เมเจอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้ออกมากล่าวโจมตีเนื้อหาของเดอะคราวน์ซีซั่น 5 ว่าเป็น “เรื่องเหลวไหลไร้สาระที่แฝงเจตนามุ่งร้าย” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องที่ละครได้นำเสนอว่า เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พยายามทำทุกอย่างเพื่อบีบบังคับให้พระราชมารดาสละราชสมบัติ ตัวของเซอร์ จอห์น เมเจอร์ เองนั้น เคยถูกล้อเลียนในละครหุ่นหนัง HD ทางโทรทัศน์เรื่อง Spitting Images มาแล้วนะครับ จนบุคลิกที่น่าเบื่อจืดชืดจนน่าขันของเขาติดตาติดใจผู้ชมทั่วสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากที่เขาและภรรยานั่งกินถั่วลันเตา ซึ่งจัดเป็นอาหารค่ำที่แสนน่าเบื่อกันอย่างเงียบ ๆ
อย่างไรก็ตามในเดอะคราวน์ซีซั่น 5 ชีวิตอีกแง่มุมหนึ่งที่เต็มไปด้วยสีสันของอดีตนายกรัฐมนตรีผู้นี้ ได้รับการเปิดเผยให้ผู้ชมได้ทราบกันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาได้รับการยกย่องนับถือจากควีนเป็นอย่างสูง โดยทรงถือว่าเขาเป็นตัวแทนของเสียงจากประชาชน และยังทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยในการหย่าร้างระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์และเจ้าหญิงไดอานาอีกด้วย แม้จะมีฉากที่นางนอร์มา ภรรยาของเซอร์เมเจอร์ ยกจานอาหารค่ำมาให้เขาในตอนที่ 9 ของซีซั่นล่าสุด แต่ก็ไม่มีถั่วลันเตาในมื้อนั้น ซึ่งขัดกับภาพจำและมุกตลกที่ชาวอังกฤษคุ้นเคยกันมานาน เธอคือผู้รับบทไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ซึ่งเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบไปทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงที่ฟังดูลังเลและเจือปนด้วยเสียงลมหายใจ ซึ่งแสดงถึงความเป็นผู้ดีมีชาติตระกูล นอกจากนี้ การก้มศีรษะลงเล็กน้อยก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองผ่านแผงขนตางอนงาม ทรงผม เสื้อผ้า และบุคลิกต่าง ๆ ล้วนเหมือนกับเจ้าหญิงแห่งเวลส์พระองค์จริงไม่มีผิดเพี้ยนอย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิงกับโดมินิก เวสต์ ผู้รับบทเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ซึ่งดูจะมีความสง่างาม ผ่าเผย มั่นใจ และหล่อเหลาเกินกว่าตัวจริงไปมาก ทำให้น่าเสียดายว่าผู้ชมคงยากที่จะคล้อยตามบทบาทการแสดงของเขาบีบีซีได้กลายเป็นตัวละครหนึ่งของเดอะคราวน์ซีซั่น 5 โดยปรากฏในตอนที่ควีนแสดงความเชื่อมั่นและยึดถือในการใช้บริการสื่อสารมวลชนกับบีบีซีเสมอมา
รวมทั้งเรื่องราวของกรณีอื้อฉาวในการ “ล่อลวง” ให้ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ประทานสัมภาษณ์แก่รายการพานอรามา แม้บีบีซีได้เคยแถลงว่าจะไม่นำบทสัมภาษณ์นี้มาออกอากาศซ้ำอีก แต่ภาพยนตร์หนัง HDอย่างเดอะคราวน์ได้สร้างฉากการสัมภาษณ์ดังกล่าวขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ทั้งยังมีแนวโน้มว่าละครโทรทัศน์อื่น ๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับราชวงศ์อังกฤษก็จะทำแบบเดียวกัน คาดการณ์ได้ว่าเดอะคราวน์ซีซั่นนี้จะสร้างความเจ็บปวดซ้ำให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวข้างต้น และจะเป็นเหตุผลข้ออ้างอย่างดีให้กับบรรดานักวิจารณ์ที่มองว่า ผู้สร้างหนัง HDควรจะหยุดถ่ายทำเดอะคราวน์ซีซั่นใหม่ ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรทำไปตั้งนานแล้วก่อนหน้านี้ มีฉากหนึ่งแสดงถึงความทันสมัยที่มากับโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ซึ่งทำให้ควีนต้องทรงยอมเปลี่ยนเครื่องรับโทรทัศน์ในพระราชวังหลังจากทรงต่อต้านปฏิเสธมานาน โดยเจ้าชายวิลเลียมได้ตรัสโน้มน้าวพระทัยพระอัยกีว่า หากทรงเปลี่ยนมาติดตั้งจานดาวเทียม ก็จะสามารถทอดพระเนตรการแข่งม้าได้ทุกเวลา เชื่อกันว่าเดอะคราวน์ใช้งบประมาณในการผลิตถึงตอนละ 10 ล้านปอนด์ แม้ว่าปีเตอร์ มอร์แกน ผู้สร้างและผู้เขียนบทภาพยนตร์จะปฏิเสธตัวเลขประมานการดังกล่าวมาโดยตลอดก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าในซีซั่นล่าสุดนี้ ยังคงมีการทุ่มทุนสร้างสุดตัวแบบ “เงินไม่ใช่ปัญหา” กันอีกครั้ง โดยเห็นได้จากฉากจำลองพระราชวังและพระตำหนักต่าง ๆ อันหรูหราอลังการ รวมทั้งฉากจำลองพิธีส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีน และฉากที่อาคาร Guildhall ของกรุงลอนดอน ซึ่งควีนมีพระราชดำรัสที่รู้จักกันดีเรื่อง ปีแห่งหายนะ นั่นเอง
มีฉากจำลองเรือยอชต์หลวงบริแทนเนีย ซึ่งปลดระวางไปในปี 1997 อยู่หลายฉาก ซึ่งผู้สร้างพยายามใช้เรือยอชต์นี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเสื่อมถอยของสถาบันกษัตริย์ ในขณะที่ควีนทรงเหินห่างจากประชาชนและโลกของความเป็นจริง กลายเป็นคนล้าสมัย และไม่มีความเกี่ยวข้องกับสังคมปัจจุบันมากขึ้นทุกขณะ อย่างไรก็ตาม การใช้เรือยอชต์หลวงดังกล่าวเป็นเครื่องหมายที่สื่อและเน้นย้ำถึงความเสื่อมถอยของราชวงศ์อังกฤษ ดูเหมือนจะตั้งใจตอกย้ำกับผู้ชมจนเกินจริงมากไปหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่เห็นได้ชัดว่า รัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองนั้นยาวนานและได้รับการยกย่องสรรเสริญอย่างสูงจากผู้คนทั่วโลก เดอะคราวน์ทุกซีซั่นส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของสหราชอาณาจักรในสายตาชาวโลก แต่มันก็อาจจะเป็นแค่สิ่งที่ช่วยพิสูจน์ยืนยันความเชื่อเดิม ๆ เกี่ยวกับอังกฤษ ซึ่งฝังอยู่ในหัวของคนทั่วไปมาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว อังกฤษในภาพยนตร์หนัง HDเรื่องเดอะคราวน์ เต็มไปด้วยภาพของสิ่งตระการตาสำหรับพระราชวงศ์และคนชั้นสูง ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหารหรูหราหรือชั้นเรียนที่อีตัน ส่วนชาวอังกฤษในหนัง HDเรื่องนี้ล้วนชื่นชอบการยิงปืนล่าสัตว์ และต่างก็เป็นผู้ดีมีมารยาทกันทั้งสิ้น แม้ภาพลักษณ์ของอังกฤษที่ถูกสร้างขึ้นจากหนัง HDเรื่องนี้ สามารถจะทำให้ชาวโลกมองว่าสหราชอาณาจักรมีประวัติศาสตร์ที่หยั่งรากลึกมาอย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ถูกมองได้ว่า คนอังกฤษส่วนใหญ่ยึดติดอยู่กับอดีตมากจนเกินไป ฉากความตึงเครียดขัดแย้งในซีซั่น 5 ฉากหนึ่ง คือการพิจารณาว่าระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์กับควีน ใครคือผู้ที่ตระหนักถึงความเป็นจริงของ “อังกฤษในยุคสมัยใหม่” ได้ดีกว่ากัน แต่ไม่ว่าภาพลักษณ์ของประเทศจะออกมาดูคร่ำครึ หรือดูอนุรักษ์นิยมสุดโต่งเพราะหนัง HDเรื่องนี้หรือไม่ แต่ชาวอังกฤษคงต้องยอมรับว่า เดอะคราวน์ได้สร้างอิทธิพลทางวัฒนธรรมให้กับสหราชอาณาจักรอย่างมากในเวทีโลก
รับชมตัวอย่างหนัง : The Crown Season 5
ขอขอบคุณวีดีโอจาก Youtube.com
ติดตามเว็บรีวิวหนัง สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนัง
ดูหนังออนไลน์ฟรีได้ที่ : ดูหนังออนไลน์