รีวิวหนัง Disney ดิสนีย์ พลัส Aladdin อะลาดิน นำเสนอเรื่องราวอมตะของอีก 1 เจ้าหญิง ที่เรื่องนี้เจ้าชายเด่นไม่แพ้กัน แต่เขาดันไม่ใช่เจ้าชายตั้งแต่แรก เพราะโดยเริ่มต้น “อะลาดิน” เป็นหัวขโมย กับการแต่งตัวก็ดูรู้ได้ไม่ยาก ว่าเกิดขึ้นที่ย่านเอโด๋ Disney ทำการบ้านมาดีมากกับวัฒนธรรมความเป็นเมืองอาหรับ ทั้งเครื่องแต่งกาย บ้านเรือน ราชวัง เครื่องเทศ เพชรนินจินดา คือมันทั้งสวยงาม ดูร่วมสมัยไม่โบราณจนเกินไป และสะท้อนภาพในยุคนั้นออกมาได้เต็มเปี่ยม มีลิงคู่ใจของอะลาดิน เป็นสีสันของเรื่อง และเรื่องราวมันเกิดวุ่นวายขึ้นเมื่ออะลาดินเกิดหลงรักเจ้าหญิง เหมือนหมาวัดหมายปองดอกฟ้า จากการ์ตูนดิสนีย์สุดคลาสสิก ปี 1992 สู่หนัง live action Aladdin ตะเกียงวิเศษยักษ์ใหญ่ใจดีสีฟ้า กับพร 3 ประการ รีวิวหนังสั้น ๆ ว่าพล็อตเรื่องคร่าว ๆ อิงจากการ์ตูน ซึ่ง อะลาดินโดนสุลต่านจาฟาร์ เสนาบดีของสุลต่านหลอกใช้ให้ไปขโมยตะเกียงในถ้ำขุมสมบัติ แลกกับจะทำให้เขาร่ำรวยจนเจ้าหญิงสนใจ แต่เขาดันไปถูตะเกียงเสียเองก่อนที่จะได้นำตะเกียงไปให้กับจาฟาร์ ทันใดนั้นก็ได้มียักษ์จินนี่ตัวสีฟ้าโผล่มาเพื่อมอบพรวิเศษให้กับเขา 3 ประการ อะลาดินจึงขอพรวิเศษไปจีบเจ้าหญิงจัสมิน ผู้เลอโฉม สุดท้ายสุลต่ายรู้เรื่อง ก็ทำการตามล่าอะลาดิน โดยมีจินนี่คอยช่วยเหลือ ในการล่าเอาตะเกียงคืน ได้ยินแล้วก็เหมือนได้กลับไปดูเพื่อนเก่ากันอีกครั้ง ถ้าใครมาดูตอนนี้ที่ 2022 ก็นับว่าตอนนี้ผ่านมา 30 ปี พอดีแล้ว ในหนังจะมีส่วนขยายต่อจากการ์ตูนออกมาอีกทำให้เรื่องราวสนุกมากขึ้น หรือบ้งขึ้นต้องติดตามกันดูต่อได้ที่ ดิสนีย์ พลัส (disney+)
รับประกันว่าเสน่ห์ของความเป็นอะลาดินยังคงอยู่ คือ ร้องเล่นเต้น กันสไตล์อาหรับราตรีแบบน้ำไหลไฟดับเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือจะเป็นการแสดงที่เป็นมนุษย์ ผสานกับเพลงแล้วออกมาน่าประทับใจ ดูแล้วเพลินตาและไหลตามสนุกสนานได้ทั้งเรื่องอย่างแน่นอน เรื่องอะลาดินเองนอกจากจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างและโดดเด่นแล้ว ทั้งเนื้อเรื่อง การแต่งกาย ภาพต่าง ๆ ที่ได้สื่อออกมามีความเป็นดิสนีย์ ที่ไม่ได้เป็นแค่หนังอินเดียวิ่งไล่กัน เป็นอีกสไตล์อาหรับที่มีเทส รีวิวหนังเรื่องนี้ อาจจะไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่เพลง A Whole new world ขึ้นมาก็รู้กันแล้วว่า เป็นของการ์ตูนหรือภาพยนต์เรื่องใด เพลงที่แทรกเข้ามาผ่านประโยคที่นักแสดงร้องเป็นทำนอง มันดูไม่ยัดเยียดเหมือนหนังดิสนี่ย์เรื่องอื่น และไพเราะมากโดยเฉพาะที่เจ้าหญิงจัสมินร้อง เล่นเอาขนลุกกับพลังเสียงของเธอจริง ๆ และนี่เป็นอีกลายเซ็นที่ดีของดิสนีย์ ที่สามารถติดตามได้ผ่าน ดิสนีย์ พลัส (disney+) สำหรับสาวกอย่างเรา ๆ ต้องไม่พลาดอะไรแบบนี้ รีวิว หนัง Aladdin อะลาดิน ว่าการแสดงทุกตัวละครอยู่ในเกณฑ์ดี เคมีอะลาดินเข้าคู่กับเจ้าหญิงจัสมินดี น่ารักกรุ้มกริ่มผลัดกันเขินไปมา มุกตลกก็มีปล่อยมาให้ฮาบ้างเป็นจุดๆ กำลังพอดีไม่เล่นบ้าบอ มีโมเม้นท์เคอะเขินอะลาดิน และเจ้าหญิงจัสมิน แต่บทที่แย่งซีนสุด หลาย ๆ คนคิดว่าอาจจะเป็นจินนี่ Will Smith เพราะครึ่งนึงของหนัง ก็เป็นมุกเกรียน ๆ ของพี่แกนี่แหละ แค่เห็นหน้าแกก็กระตุกยิ้มนำไปก่อนแล้ว ใช้เวลาสักพักกว่าจะชินหน้าเล่นเอาอมยิ้มทั้งเรื่อง แต่รีวิวหนังว่าตัวแย่งซีนของจริงน่าจะเป็นสุลต่านจาฟาร์ โดยรวมแล้วจัดว่าคัดนักแสดงได้ดีมีคุณภาพเลยทีเดียว ที่แค่ยืนมุมปากก็ดูโคตรชั่วแล้ว เดินไปไหนนี่กลบชาวบ้านเรียบ ซีจีทุกอย่างทำออกมาได้สวยตระการตา เว่อร์วังดาวล้านดวง แต่รู้สึกว่าลูกเล่นของจินนี่ที่เสกนู่นนี่ดูยัดเยียดมากไปนิด เริ่มเว่อร์อลังมองตามไม่ทัน ทั้งเวทมนตร์จินนี่ที่เนียนตามาก ๆ ไม่เสียชื่อ ดิสนีย์ ยิ่งฉากเจ้าหญิงบนพรมวิเศษนี่บอกเลยว่า สวยอลัง และเพลง A Whole new world ขึ้นมา ซึ่งมันทัชกับซีนนั้นมาก ๆ สมชื่อ ดิสนีย์ บรรดาขบวนแห่หลายพันคน งานเลี้ยงจุดพลุเล่นใหญ่สุด ๆ แต่บางฉากในหนังหมุนมุมกล้องไวมาก มัวๆ หลุดโฟกัสแปลกๆ เหมือนมีไอน้ำมาเคลือบหน้ากล้อง ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจใส่เอฟเฟคให้เป็นไอทะเลทรายหรือเปล่า
ส่วนเนื้อเรื่องที่ได้เติมเข้ามา ก็จะเป็นการใส่สีเติมกฎใหม่ให้จินนี่นิดหน่อย รวมถึงวางมิติตัวละครให้ลึกขึ้น ซึ่งโดยรวมก็ออกมากลมกล่อม เคารพต้นฉบับ และมีเอกลักษณ์ของตัวเองทำให้เข้ากับยุคสมัย ช่วงท้าย ๆ ของหนังเริ่มมีฉากแบบเมากาวมโนไปเอง ยัดอะไรก็ไม่รู้เข้ามา ซึ่งส่วนตัวคิดว่ามันค่อนข้างประหลาดนิด ๆ แต่ก็เป็นเพลงการรีวิวหนังจากความเห็นส่วนตัวเท่านั้น รู้สึกหลายอุปสรรคในหนังมันคลี่คลายง่ายเหลือเกิน บางเหตุการณ์ที่ดูหนักหนา แป้บๆ ก็พลิกกลับมาได้แบบเหลือเชื่อ มีแต้มต่อทันที ความลุ้นเอาใจช่วยพระเอกมันเลยหายไปด้วย ถึงการ์ตูนต้นฉบับดิสนี่ย์มันจะมาอีหรอบนี้ ก็ควรปรับบทใหม่ให้มันดูสมเหตุในความเป็นหนังมากขึ้น
รีวิว หนัง อะลาดิน ในความนุ่มลึกของเวอร์ชั่นล่าสุด
แท้จริงแล้ว เวอร์ชั่นล่าสุดของAladdin อะลาดินที่เป็นภาพยนต์ ดูจะไม่เป็นกระแสที่ดีเท่าการ์ตูนซักเท่าไหร่ในตอนที่เปิดตัวนักแสดง เพราะไม่มีตัวแม่เหล็ก นักแสดงไม่ดึงดูด แต่พอได้ดูจริงกระแสกลับต่างออกไปเลย อย่างที่ว่า ไม่ควรดูกันแค่เปลือก ขนมดิสนีย์ซองนี้อาจจะเรียกได้ว่า แพตเกจไม่เท่าไหร่เห็นเทรเลอร์แล้วรู้สึกว่ามันได้แค่นี้เองหรอ ทำไมแคสต์แปลก ๆ แต่รสชาติข้างใจจัดว่าดี พอเอาเข้าจริง เคมีพระ – นางกลับดีมาก ดีเกินกว่าที่คาดไว้เยอะมาก ตัวมีนา พระเอกอลาดินเนี่ย มีความกึ่ง ๆ พออยู่ตัวละครเดียว เหมือนจะดรอป แต่พอเข้าฉากกับตัวละครอื่น มีสีสันขึ้นมาเลยทีเดียว ถ้ายิ่งเข้าฉากกับนาโอมิเมื่อไหร่ คือเอาอยู่ตลอด ขอใช้คำว่า เป็นพระเอกที่บารมีออกเมื่ออยู่กับนางเอกก็ว่าได้ ตัวนาโอมิ หรือเจ้าหญิง เป็นตัวละครที่แสดงความ feminist สูง แต่ด้วยจุดยืนนี้ เลยทำให้ยิ่งขับรัศมีของจัสมินออกมามาก ๆ ทุกคนรู้สึกเหมือนกันในฉากที่แสดงพลังของความเป็น leader ในเพลง speechless ไม่ทำให้เสียชื่อ Disney เลยแม้แต่น้อย การแสดงออกทางอินเนอร์ได้สุด และอินเนอร์ชัดในทุกถ้อยคำ กับอีกช่วงของพระเอกที่เป็นเจ้าชาย พอต้องเข้าบทกับจาฟาร์ เพราะหลายคนก็บอกเหมือนกันว่าหล่อไป ดูไม่ร้าย รู้สึกว่าอาละดินมีอำนาจเหนือจาฟาร์ได้อย่างประหลาด สำหรับวิลล์ สมิธ รู้เลยว่าทำการบ้านมาหนัก ตีบทแตก และเล่นได้แป้นแล้นจริง ๆ แสดงจีนี่ได้ดีดมาก เป็นจีนี่ที่อยู่ในจินตนาการวัยเด็ก ทำให้ Disney ไม่โดนกระแสอะไรจากการเลือกเขามาเป็นจินนี่ในครั้งนี้ ดีดแบบสมเป็นจีนี่ที่เด็ก ๆ ดูแล้วชอบได้เลย เป็นอีกนักแสดงที่เข้ามา hold เรื่องไว้ได้ดี ไม่แปลกใจที่ได้มีชื่อชิงรางวัลออสก้า แม้จะมีเรื่องราวในวันรับรางวัลก็ตาม หนังจะขาดสีสันไปเกือบๆ ครึ่งได้เลย ถ้าไม่มีตัวละครนี้มาสร้างบทบาท เรียกว่าที่จริงแล้ว ดิสนีย์อาจจะทำให้ วิลล์ สมิธ มาเป็นนักแสดงนำก็เป็นได้ หนังร้องเพลงเยอะกว่าที่คาด และ มีเพลง ที่คล้าย ๆ let it go ของ Frozen ในเครือ ดิสนีย์ เหมือนกัน ซึ่งเจ้าหญิงจัสมินร้องตอนใกล้จบ ดนตรีนี้นึกถึง Let it go เลย เคยดูตั้งแต่ครั้งที่เป็นการ์ตูนอนิเมชั่น แต่พอเป็นหนัง ดูตั้งแต่ต้นจนจบรู้สึกฟินดีเหมือนกัน กับการที่มีเพลงมากขึ้น มีการเก็บรายละเอียดจากการ์ตูนมาเป็นภาพหนังหลายฉาก แบบมีความสุขแบบบอกไม่ถูก มันคล้าย ๆ มีความสมัยใหม่ผสมความคลาสสิค ดูจบแล้วรู้สึกอยากดูอีกสักหลาย ๆ รอบเหมือนรอบเดียวมันยังไม่อิ่ม ถ้าเป็นฟีลนี้ ดิสนีย์ พลัส (disney+) จัดให้
เรื่องของกราฟฟิกคือให้เลยคะแนนเต็ม ตอนดูหนังนี่ชอบฉากเล็ก ๆ ฉากหนึ่ง คือ ฉากเอาลิงซุกไว้ในเสื้อ ดูแล้วรู้สึกอบอุ่น เมื่อเปิดรีวิวหนังดู จึงได้รู้ว่า นั่นคือ ฉากที่เหมือนกับในการ์ตูนมาก และลิงตัวนั้นก็คือ กราฟฟิก รวมถึงฉากตอนอาละดิน ปีกระไดแล้วตีลังกาหมุนกับกำแพง ก็ใช้กราฟฟิก ซึ่งมีความเหมือนจริงมาก มากจนต้องกลับมาถามกับตัวเองหรือดูรีวิว หนัง เพื่อให้แน่ใจว่า นั่นคือการแต่งภาพจริง ๆ ใช่หรือไม่ นกแก้วอยากให้กวนกว่านี้อีกนิดเหมือนในการ์ตูน แต่แค่นี้ก็แสนรู้จนน่าหมั่นไส้แล้ว ข้อติเพียงนิดเดียว คือ ฉาก ฉาก a whole new world น่าจะทำให้ว้าวกว่านี้ แต่ก็อาจจะเป็นเพราะความคาดหวัง ด้วยฉากนี้เป็นไฮไลท์ของเรื่องนี้โดยไม่ต้องดูรีวิวหนังมาก่อน อาจจะทำให้หลาย ๆ คนตั้งความหวัง ด้วยเป็นฉากของการโฆษณาด้วยเพลงอีกตางหาก เรื่องนี้ เพลงนี้ดังจริง ๆ ถ้าใครชื่นชอบ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร หนังเจ้าหญิงในเครือดิสนีย์มาก่อน แน่นอนว่า จะต้องรักเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าจัดเต็มกว่าในทุก ๆ ด้าน เนื้อเรื่อง เพลง อินเนอร์นักแสดง ทำให้กลายเป็นหนังฟอร์มดีแห่งปีได้เลย และที่ชื่นชมสุด ๆ น่าจะเป็น จินนี่ กับกราฟฟิกต่าง ๆ ที่สร้างออกมาได้สมจริง ไม่ดูถูกคนดู คนที่รักการ์ตูนเรื่องอาละดิน เมื่อได้มาดูหนังอีกครั้ง ดิสนีย์ พลัส (disney+) ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน ใครยังไม่ดูแนะนำให้ดู soundtrack จะได้ฟังเพลงเพราะ ๆ แต่ถ้าดูทั้งพากย์ไทยและซาวน์แทรคคนละรอบ ก็ไม่แย่ เพราะเรื่องนี้สนุกดีไม่มีหาวแน่นอน นักแสดงร่วมก็ดี ๆ กันทั้งนั้น เรื่องนี้ องค์ประกอบสามารถดันนักแสดงได้เลย
บทสรุป ของอะลาดิน ควรค่าแก่การดูหรือไม่
รีวิวหนังกันมาก็มาก Aladdin อะลาดิน หนังดิสนีย์นี่แทบจะไม่ต้องรีวิว หนังอะไรกันให้มากความด้วย ด้วยความที่ค่ายนี้ เค้าทำกันมาดีอยู่แล้ว ในเรื่องของการ์ตูนและรีวิวหนังแฟนตาซี แม้ว่าเรื่องอาละดินนี้ ดูตอนแรก ๆ อาจจะรู้สึกว่า Disney ทำมาเล่น ๆ หรือเปล่า ทำไมแคสนักแสดงไม่ค่อยดึงดู แต่โดยรวมแล้ว เมื่อได้เปิดใจดู นักแสดงนี่แหละจะดึงดูดให้เราสนุกกับหนังจนไม่ลุกไปไหนได้เลย แม้ว่า จะไม่ได้มีรัศมีของการเป็นตัวละครมาก แต่เมื่อเข้าถึงบท กลับสามารถดึงอินเนอร์ของตัวละครกันออกมาได้แบบไม่มีกั๊ก ดิสนีย์ พลัส เปิดให้ดูเรื่องอาละดินกันได้แล้ววันนี้ ที่ disney+ หนัง Live Acion น้ำดีอีกเรื่องหนึ่งของค่ายอนิเมชั่นชื่อดังอย่าง ดิสนีย์ ไม่มีผิดหวังแน่นอน
รับชมตัวอย่างหนัง : Aladdin อะลาดิน
ขอขอบคุณวีดีโอจาก Youtube.com และ ขอขอบคุณรูปภาพจาก Google
ติดตามเว็บรีวิวหนัง สามารถรับชมและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนัง
ดูหนังออนไลน์ฟรีได้ที่ : ดูหนัง hd