รีวิวหนัง Ant-Man and the Wasp : Quantumania สวัสดีครับทุกคนทุกคนเคยเห็นเจ้าฮีโร่สุดล่ำที่ทำให้ตัวเองเล็กลงกัรได้ไหมโอเคงั้น มากับหนังและซีรีย์ Netflix ฮีโร่อีกตัวนึงที่เป็นตัวละครที่เท่มาก ก่อนอื่นเราก็ต้องมาเกริ่นๆกันก่อน เอาล่ะลากยาวกันมากมายกับจักรวาลภาพยนตร์ของ ฮีโร่มาเวลได้เดินทางมาถึงช่วงที่ ที่ 5 ในมหากาพย์มัลติเวิร์ส เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะครับบอกได้เลยว่าเป็นจักวาลที่น่าติดตามอะไรขนาด หนังและซีรีย์ Netflix ตัวเปิดจักรวาลในช่วงที่ นี้ก็คือหนังและซีรีย์ Netflix เดี่ยวภาคที่ 3 ของ ครับทุกท่านสก็อต แลง หรือแอนท์แมน ซูเปอร์ฮีโรพลังมด หนึ่งในสมาชิกฮีโร Avengers ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ซึ่งในหนังและซีรีย์ Netflix เดี่ยว 2 ภาคแรกของเขาทั้ง Ant-Ma นั้นก็มักจะเป็นหนังและซีรีย์ Netflix ที่ยืนพื้นในการเป็นหนังและซีรีย์ Netflix ที่สามารถหนังและซีรีย์ Netflix รอมคอมแนวครอบครัว ผสมหนังและซีรีย์ Netflix จารกรรมที่มีกลิ่นอายเฮฮา ที่แม้ว่าอาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างเฉิดฉายได้เท่ากับหนังและซีรีย์ Netflix เดี่ยวซูเปอร์ฮีโรเจ้าอื่น ๆ แต่ที่ผ่านมาทั้งในหนังและซีรีย์ Netflix เดี่ยว และการปรากฏตัวในหนังและซีรีย์ Netflix รวมฮีโรต่าง ๆ ก็พิสูจน์ว่าแอนท์-แมนเองก็เป็นซูเปอร์ฮีโรที่หลายคนรักและชื่นชอบไม่น้อยโดยในภาคนี้ก็ยังคงได้ เพย์ตัน รีด ผู้กำกับจาก 2 ภาคแรกกลับมากำกับเช่นเคย แต่ในฝั่งของผู้เขียนบทมีการเปลี่ยนมือ โดยได้ เจฟฟ์ เลิฟเนสส์ ผู้เขียนบทแอนิเมชันซีรีส์สายปั่น ที่โดนจองตัวให้เขียนบท The Kang Dynasty ในช่วงที่ 6 นั่นเองพร้อมกับนักแสดงชุดเดิมกลับมาแบบครบ ๆ รวมทั้งนักแสดงใหม่ ๆ และนักแสดงเซอร์ไพรส์ที่ยังไม่รู้บทบาท
เรื่องราวของภาค Quantumania นี้จะเล่าเรื่องของ สก็อต แลง/แอนท์-แมน
หลังจากที่เขาติดในมิติควอนตัม 5 ปี และหนีไปเป็น Avengers จนกลายเป็นคนดัง เขียนหนังและซีรีย์ Netflix สือขายดี ไปไหนใครก็รู้จัก แต่เป้าหมายสูงสุดของเขาก็คือ การได้ใช้เวลาอยู่กับลูกสาว แคสซี แลง สาวน้อยหัวเนิร์ดห้าว ง ตอนนี้พวกเขากลายเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของ 2 ตายาย ดร.แฮงก์ พิม เจเน็ต แวน ดายน์ และ โฮป แวน ที่บังคับให้ ยิดมนุษย์แอนท์-แมน ตามหาบางสิ่งบางอย่าง เพื่อแลกกับเวลาที่จะทำให้เขาได้อยู่กับลูกสาว พร้อมกับการเผยเรื่องราวของเจเน็ต ที่ยังคงเก็บงำความลับบางอย่างหลังติดในมิติควอนตัมมานานกว่า 30 ปีเอาไว้การผลัดไม้ของผู้เขียนบทนั้นส่งผลต่อเนื้อเรื่องและโทนของหนังและซีรีย์ Netflix อย่างเห็นได้ชัด ๆ เลยครับ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะว่าเพื่อให้สอดคล้องกับธีมความเป็นมัลติเวิร์สด้วยแหละ โชคดีที่ใหนังและซีรีย์ Netflix Ant-Man และบรรดาหนัง Avengers ทั้งหลายได้ปูเรื่องแนะนำ อนุภาคพิมและมิติควอนตัม ให้รู้จักไว้มากพอสมควรแล้ว ผลก็คือ นอกจากในภาคนี้จะตำเนินเรื่องไปได้เลยอย่างรวดเร็ว กระชับ ไม่ต้องปูซ้ำให้เสียเวลาแล้ว ตัวหนัง ก็เหมือนกึ่ง ๆ บังคับให้เปลี่ยนธีมจากรสชาตหนัง รอมคอมครอบครัวผสมจารกรรมที่เกิดขึ้นใน 2 ภาคแรก กลายเป็นหนัง แอ็กชันผจญภัยที่มีความแฟนตาซีจัด ๆ กันไปบรรดาหนัง Avengers ผสม Guardians of the Galaxy
ฉากอื่น ๆ ในขณะที่ฉากร่วมกันรบพุ่งทำสงคราม ฉากชนเผ่า ฉากเจรจากับสัตว์ในควอนตัม และบรรดาน้อน ๆ ที่ทั้งน่ารักและแปลกตานี่ก็ชวนให้นึกถึง ‘Star Wars’ ในเอพิโสดท้าย ๆ อย่าง ‘Star Wars: Episode VI – Return of the Jedi ในขณะที่ตัวหนังและซีรีย์ Netflix ก็สามารถผสมมุกฮา ๆ โดยเฉพาะมุกแนวไดอะล็อก รวมทั้งจังหวะการเล่าเรื่องแบบปั่น ๆ กาว ๆ ความหนืดหนาดย้วยย้ายบางอย่าง ก็ยังชวนให้นึกถึงการ์ตูนเกรียนๆนิด ๆ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นอายความฮาเกรียน ๆ ในแบบ 2 ภาคแรกก็หายไปเยอะพอสมควร รวมทั้งการไม่มีสมาชิก 3 เกรียนของลูอิสตามมาด้วย แต่ก็ยังพอจะมีมุกบทสนทนาแซม ๆ แกล้ม ๆ ให้ได้ฮา พร้อมกับมุกจังหวะนรกผิดที่ผิดทาง ที่ถือว่าเป็นงานถนัดของแอนท์-แมนก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้แบบดูเพลิน ๆ ได้ความฮานิดกาวหน่อย ผสมแฟนตาซีตื่นตาและความเล่นใหญ่เล่นโตมาแทน ในแง่ตัวละครถือว่ากระจายกันได้อย่างลงตัวและมีเสน่ห์มากขึ้นจาก 2 ภาคแรกนะครับ โดยเฉพาะการแบ่งตัวละครออกเป็น 2 เส้นเรื่อง แต่สิ่งที่ต้องพูดถึงมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นวายร้ายอย่าง แคงผู้พิชิต ที่รับบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส ที่อุตส่าห์บิลต์กันยกใหญ่ว่านี่จะเป็นตัวร้ายประจำ Saga ที่โหดยิ่งกว่าธานอส ถ้าเอาในแง่การแสดง ก็ต้องใช้คำว่า “มาร์เวลโชคดีที่มี โจนาธาน เมเจอร์ส”
จริง ๆ เพราะเขาสามารถถ่ายทอดความเป็นแคงได้มีเสน่ห์ น่าเกรงขาม มีความเป็นเจ้าพ่อมาดเข้ม เจ้าเล่ห์ แต่เวลาโหดก็ใส่แบบเดือด ๆ เหมือนกันส่วนตัวผู้เขียนเองตื่นตากับมิติควอนตัมในเรื่องนะครับ เพราะมันแทบจะเป็นการเซตจักรวาลขึ้นมาเลย ไม่ได้แค่โผล่มาเป็นกิมมิกมัลติเวิร์สเฉย ๆ รวมทั้งงานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกที่ถือว่าสอบผ่านมากๆในหนัง เราจะได้เห็นมิติที่ถูกแบ่งออกเป็นโซน ๆ ได้เห็นสิ่งมีชีวิตและถิ่นที่อยู่ที่แปลกตา ที่มีความเพี้ยนแปลกแต่ก็มีความตื่นตาน่าสนใจ และฉากต่อสู้นี่ก็เรียกได้ว่า พี่แคงแกเป็นมวย เพราะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดูหนังและซีรีย์ Netflix Creed อยู่เหมือนกันนะ ก็พอจะคาดเดาได้ว่าแคงนั้นอันตรายในระดับมัลติเวิร์สได้อย่างไร และก็ถือว่าเป็นตัวร้ายที่มีเหตุผลบางอย่างในแบบฉบับของ Marvel นั่นแหละ แต่วายร้ายอีกตัวที่ผู้เขียนอยากพูดถึงก็คือ โมด็อก ซึ่งก็คือ แดเรน ครอส หรือ เยลโลว์แจ็กเก็ต วายร้ายที่โดนบีบอัดไฟล์ .zip ไปแล้วในภาคแรก เห็นแบบนั้น แต่ขโมยซีนเรียกฮาเรียกยิ้มได้หลายขยักอยู่นะ แน่นอนว่าตัวหนังและซีรีย์ Netflix เองก็ยังมีจุดสังเกตอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็วตลอดเรื่อง ในอีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้ตัวหนังและซีรีย์ Netflix มีความรวบรัดตัดตอนในบางจุดคล้าย ๆ ภาคแรก โดยเฉพาะบทสรุปเรื่องที่จริง ๆ ทำได้ค่อนข้างดีเลยนะครับ แต่ว่ามันก็แอบมีจังหวะรีบทำเวลาจบอยู่ดี และนั่นก็ส่งผลกระทบให้การย้ำดราม่าประเด็นครอบครัว ที่มีตั้ง 2 ครอบครัวเลยนะคราวนี้)
ยังขยี้ต่อได้ไม่ลึกนัก จนแอบขาดเสน่ห์ความเป็นหนังและซีรีย์ Netflix ครอบครัวแบบ 2 ภาคแรกไปพอสมควร รวมทั้งการปูเรื่องที่ไปที่มาของแคง และความลับเกี่ยวกับมิติควอนตัมของเจเน็ต ในฐานะที่เป็นคนอยู่ในมิติควอนตัมมานาน 30 ปี ค่อนข้างอ่อนแรง เบาบาง และมีผลต่อเนื้อเรื่องน้อยไปสักหน่อย รวมทั้งตัวละครใหญ่ ๆ ที่ถูกวางไว้เป็นปริศนา แต่เอาเข้าจริงก็มาไวไปไวมาก ใช้ไม่คุ้มค่ากับบารมีดาราเสียอย่างนั้นแหละโดยรวม ๆ แล้ว ถ้ามองในฐานะหนังและซีรีย์ Netflix หนังและซีรีย์ Netflix เปิดหัวช่วงที่ ก็ต้องถือว่าเป็นแรงส่งไปสู่ช่วงที่ 5 ได้อย่างน่าสนใจและถือว่าไม่เลวนะครับ ด้วยการเล่าเรื่องที่สเกลใหญ่ขึ้น มีความสนุกและความตื่นตาตื่นใจที่ยังคงมอบความบันเทิงให้ผู้ชมได้ตลอดเหมือนเดิม สมฐานะการเปิด ช่วงที่ จริง ๆ แต่การขาดน้ำหนักความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ก็อาจจะทำให้ Quantumania กลายเป็นการผจญภัยอันแสนสั้นที่รอการปะทุของสงครามครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาและนี่ก็เป็นเกือบทั้งหมดของการรีวิวหนังและซีรีย์ Netflix Ant-Man and the Wasp: Quantumania นั่นเองครับเรามาดูคอมเมนต์จากชาวต่างชาคิกัน ในฐานะแฟนตัวยงของหนังเรื่องนี้เลยนะเกือบจะเป็นแฟนตัวยงของอันที่ 2 เพราะว่าผมเนี่ยตัดสินใจทุ่มสุดตัวเพื่อดูหนังเรื่องนี้แบบ 3 มิติด้วยที่นั่งแบบเคลื่อนไหวและประสาทสัมผัสแบบ 4dx ช่างเป็นอะไรที่น่าผิดหวังแต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นเพราะว่าสิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นผมบอกเลยว่าหนังเรื่องนี้นั้นออกมาได้ดีที่สุดมันยอดเยี่ยมมากทำให้ผมรู้สึกว่าเหมือนกำลังดูเรื่องราวของ luny June แทนที่จะดูเรื่องราวประเภทอื่นๆตามที่เป็นส่วนหนึ่งของที่ชมเชยในการของจักรวาล mcu นี่เป็นหนึ่งในหนังที่สนุกและจำเป็นที่จะต้องดูมากเอาตรงๆ Marvel อย่างแท้จริงจนถึงปัจจุบันเรื่องราวทั้งหมดซ้ำซากค่อนข้างจะซ้ำซากแต่ก็ไม่ถึงขนาดนั้นเพราะว่าถ้าเราเป็นแฟนบอยจริงๆเราน่าจะชอบแต่ถ้าเป็นคนดูปกติก็ไม่น่าจะไม่ชอบหนังเรื่องนี้ประมาณนั้นเพราะว่าหนังนี้ค่อนข้างจะคาดเดาได้เงินเดาง่ายมีจำเจบ้างเปล่าปลายแม้อารมณ์ขันที่ยอดเยี่ยมและเฮฮาตามปกติในภาคที่แล้วก็ยังขาดหายไปในภาคนี้เล็กน้อยหนังทั้งเรื่องดำเนินเรื่องโดยใช้ CG เกือบทั้งหมดดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีฉากหรือโลเคชั่นของภาพยนตร์หรือว่าหนังใดๆนี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับฉากเขียวเพราะมันเพราะว่ามันได้ใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
มันนั้นแตกต่างจากหนังภาค 2 ก่อนอย่างจริงๆแต่ผู้คนต้องการโปรเจค Marvel แนว Dark มากกว่าดังนั้นก็คือการแสดงของrโจนาธานเมเจอร์ทำให้ยอดเยี่ยมมากและฉาก Action ก็เจ๋งมากๆทั้ง 4G และบทพูดค่อนข้างที่จะธรรมดาไปหน่อยโดยทั่วไปแล้วมันมีเรื่องราวที่ดีจำเป็นจะลึกเข้าไปในตัวละครของตัวต่อตัวมากกว่านี้ทำให้เขานั้นมีฉากน้อยกว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆตัวละครของเคสซี่ดูเหมือนจะดีแต่ด้วยบทที่ดีกว่านี้เธอน่าจะดีกว่านี้ใครก็ตามที่อยู่ในฉากเครดิตทำได้ดีเพราะว่าพวกเขาเพิ่มบางจุดให้กับหนังคนดูต้องพยายามรับกับความต่างระหว่างตลกดาร์กกับส่วน Marvel ต้องระวังเรื่อง CG เพราะว่าเรื่องนี้มันใช้ทฤษฎีเยอะจริงๆนะครับ เป็นอีกเรื่องนึงนะครับที่บอกได้เลยว่าใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิกเยอะแบบเยอะจริงๆ นะอาจจะทำให้หลายๆคนเอียนและแวกกันไปเลยทีเดียวเพราะว่ามันไม่ค่อยมีฉากธรรมชาติสวยมากเท่าไหร่เพราะว่ามันเป็นไปที่ CG ซะส่วนใหญ่ ฉากแอกชั่นก็ต้องบอกเลยว่าเร้าใจมากๆแต่เนื้อเรื่องมันก็นั่นแหละค่อนข้างที่จะเดาง่ายเรียบๆดูไม่ค่อยหวือหวาเท่าไหร่มันทำให้เราเดาได้เดาง่ายไปหน่อยแต่ก็นั่นแหละ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็นแนะนำเลยสำหรับหนังเรื่องนี้
รับชมตัวอย่างหนัง : ANT-MAN AND THE WASP : QUANTUMANIA
ขอขอบคุณวีดีโอจาก Youtube.com
ติดตามเว็บรีวิวหนัง สามารถรับชมเพิ่มเติมได้ที่ : เว็บรีวิวหนัง
ดูหนังออนไลน์ฟรีได้ที่ : ดูหนังออนไลน์